 |
อายุ 20 ควรมีคู่นอนกี่คน
หลายการวิจัยบ่งบอกว่าคนอายุ 20 ปีควรมีเพศสัมพันธ์กับคนมาจำนวนเท่านี้ ๆ ๆ ๆ ๆ ซึ่งจริง ๆ แล้วมันไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนั้นเสมอไป การที่เรามีคู่นอนน้อยกว่านั้น ผ่านผู้ชายมาแค่คนเดียวหรือสองคน ไม่ได้หมายความว่าเราเป็นคนดีเลิศประเสริฐกว่าคนอื่น และการที่เรามีคู่นอนมากกว่าเกณฑ์ที่เค้ากำหนดไว้ก็ไม่ได้หมายความว่าเราไม่รักนวลสงวนตัวแต่อย่างใด เพราะเรื่องพวกนี้มันวัดกันไม่ได้หรอก
การใช้ชีวิตของแต่ละคนย่อมแตกต่างกันอยู่แล้ว ทั้งสภาพแวดล้อม ทั้งอุปนิสัย ทั้งความคิด ทุกอย่างสอดคล้องกับเรื่องของจำนวนคู่นอนทั้งนั้น ถ้าเราโชคดีหน่อย เจอคนที่รักเราจริง เราอาจจะมีคู่นอนแค่คนเดียวก็ได้ แต่ถ้าเราโชคร้ายล่ะ คบใครก็เจอแต่คนนอกใจ แบบนี้เราอาจจะมีคู่นอนมากกว่า 10 คนในอายุแค่ 20 ปีก็ไม่เห็นแปลก
ถ้าใครยังอยากจะรู้ว่าอายุเท่าตัวเองควรมีคู่นอนมาแล้วกี่คน แล้วตัวเองอยู่ในประเภทไหนก็ลองไปทำแบบทดสอบได้ที่เว็บไซต์ 2 อันนี้ Kinsey Institute และ Slateซึ่งมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรหรอก
เพราะอย่างที่บอกไปว่ามันขึ้นอยู่กับโชคชะตาและ
พฤติกรรมของเราล้วน ๆ
อย่างคู่รักบางคนคบหากันมานานมากถึง 7 ปี จนคิดว่านี่คือรักสุดท้ายที่ต้องเจอแล้ว แต่สุดท้าย ด้วยอะไรก็แล้วแต่ เค้าทั้งคู่ก็เลิกกันจนได้ ซึ่งหลังจากนั้นผู้หญิงก็ไปมีคนใหม่ คุยกับผู้ชายคนหนึ่งแล้วคบหากันเป็นแฟน พอคบกันไปได้สักเดือนฝ่ายชายก็ต้องการมีอะไรด้วย แต่ผู้หญิงก็บอกให้รอไปก่อน เธออยากให้ค่อยเป็นค่อยไป ไม่อยากรีบร้อน เพราะเธอเพิ่งช้ำกับรักครั้งเก่าไม่หาย และเค้าก็ดูเหมือนจะเข้าใจในจุดนี้ หลังจากคบกันได้ 2 เดือนพวกเค้าก็มีอะไรกัน แต่หลังจากนั้นเธอก็พยายามขอห่างกับเค้า เพราะเค้าเอาแต่คิดจะให้เธอทำ Oral Sex อยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะตื่น จะนอน จะไปไหน ทำอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งมันเป็นเหมือนการทรมานมากกว่าการแสดงความรักให้กันและกัน
 |
นี่จึงแสดงให้หลาย ๆ คนเห็นว่า จำนวนตัวเลขของการมีเพศสัมพันธ์ในแต่ละช่วงอายุนั้นไม่มีความจำเป็นอะไรกับการดำเนินชีวิตเลยแม้แต่น้อย ขนาดคนที่ทำดีให้เรามาก ๆ ในครั้งแรกที่ได้เจอ พอตกลงใจมีอะไรกันไปแล้วก็อาจกลับไปเป็นคนละคนได้ ไหนจะต้องมาเจอกับอุปสรรคชีวิตรักที่บางคู่ก็เข้ากันไม่ได้เอาซะเลยอีก แรก ๆ อาจฝืนทนคบกันไปไหว แต่พอผ่านช่วงโปรโมชั่นไป ลายก็ออก สุดท้ายเป็นตัวของตัวเองมากไปก็รับกันไมได้ ทำให้ต้องเลิกกันอีก
ดังนั้นเราอย่าไปสนใจเรื่องของจำนวนเลยดีกว่า ขอแค่ให้รู้ว่าเราทำดีกับความรักทุกครั้งที่เกิดขึ้น หวังที่จะให้มันเป็นรักครั้งสุดท้ายอยู่ตลอด และรักษามันด้วยกับทุกอย่างที่เรามี แค่นี้ก็พอแล้วที่จะทำให้ตัวเราดูมีคุณค่า ถึงแม้จะเคยผ่านอะไรมามากน้อยกว่าเกณฑ์แค่ไหนก็ตาม
